รับเหมาก่อสร้าง ปรับปรุงซ่อมแซม ไม่ถูก เป็นอย่างไร

เรามักได้เห็นโฆษณาบ่อยๆ เวลาเราหาช่างหรือผู้รับเหมาทางอินเทอเน็ตหรือสื่อโฆษณาอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น

 “รับเหมาก่อสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน งานไว งานดี เก็บงานเรียบร้อย โดยช่าง กขค ประสบการณ์สูง ราคาถูก "

“ รับสร้างบ้าน ต่อเติมซ่อมแซม คุณภาพดี ราคาประหยัด สวยงาม  โดยช่างมีประสบการณ์กว่า 20 ปี ราคาถูก  ไม่แพง คุณภาพดี "  “ บริษัท กขค  รับออกแบบบ้าน ตกแต่งบ้าน สร้างบ้านคุณภาพดี ได้มาตราฐาน โดยผู้ออกแบบวิศวกรมืออาชีพ และทีมงานช่างชำนาญการโดยเฉพาะ ราคาถูก "

ส่วนมากมักมีการลงท้ายด้วย คำว่า ราคาถูก, ราคาไม่แพง, ราคาเป็นกันเอง, ราคาที่คุณพอใจ, ราคาประหยัด เป็นต้น

       การที่ต้องใส่ คำว่า ราคาถูก, ราคาไม่แพง, ราคาเป็นกันเอง, ราคาที่คุณพอใจ, ราคาประหยัด นับว่าเป็นกลยุทธ์ในการตลาด เพื่อดึงดูดใจลูกค้า ที่แน่นอนย่อมอยากได้ของดีราคาถูก ทำให้เกิดความรู้สึกว่า สามารถจ้าง ช่างที่มีฝีมือดี มีทีมงานสถาปนิค-วิศวกร ประสบการณ์สูงให้คำปรึกษาออกแบบ ใช้วัสดุก่อสร้างได้ตรงตามมาตราฐาน ส่งมอบงานตรงตามกำหนดเวลาแล้วเสร็จ มีบริการหลังการขาย สามารถจ้างได้ในราคาที่แสนถูกในราคาประหยัด สบายกระเป๋า

ซึ่งในความจริงก็ไม่ผิด ใครๆก็อยากได้ของดีราคาถูกเหมือนๆกันทุกคน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ราคาวัสดุก่อสร้างถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก บวกกับค่าแรงช่างไม่ต้องพูดถึงมีการปรับเปลี่ยนแบบก้าวกระโดด เนื่องจากขาดแคลนแรงงานมีฝีมือคนไทย ในตลาดแรงงานด้านช่าง ซึ่งนับวันมีแนวโน้มลดจำนวนลง และกำลังถูกแทนที่ด้วยแรงงานก่อสร้างจากต่างชาติ

จะเป็นไปได้หรือไม่ ? ตามโฆษณาที่เห็นทั่วไป  ที่จะมี ทีมงานก่อสร้างคุณภาพเยี่ยมมีประสบการณ์สูง มีช่างฝีมือดี ใช้วัสดุในการก่อสร้างมีคุณภาพมาตราฐาน จะมีต้นทุนการดำเนินงานที่มีราคาแสนถูก แถมบริษัทนั้น หรือ ผู้รับเหมานั้น ยังมีกำไรเหลืออีก 

 

ผึ้งงานคอนสตรัคชั่น  เรารับเหมาก่อสร้าง ต่อเติมซ่อมแซมปรับปรุงบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงาน ฯลฯ  ครบวงจร ไม่ถูก ขอย้ำอีกครั้งว่า .....ไม่ถูก

ไม่ถูก มี 4 ข้อดังนี้

 ไม่ถูกที่ 1.   คือ  ลูกค้าจะไม่ถูก  ทิ้งงาน ทำงานไม่จบตามสัญญาโดยเด็ดขาด ซึ่งแน่ๆเป็นปัญหา ที่ลูกค้าส่วนใหญ่หวาดกลัวเป็นอันดับต้นๆ ในการว่าจ้าง ช่างหรือผู้รับเหมาในการทำงานก่อสร้างเลยก็ว่าได้  เนื่องจากพบกรณีนี้ได้บ่อยครั้ง ที่ผู้รับเหมาเสนอราคางานในราคาที่ต่ำเพื่อที่จะให้ได้งาน  ต่อมากไม่สามารถดำเนินงานให้แล้วเสร็จได้เนื่องจากประสบสภาวะขาดทุน จึงเกิดการทิ้งงาน ไม่เว้นแม้แต่ในหน่วยงานราชการดังที่เราได้เคยได้ยินข่าว

ในกรณีที่มีปัญหาในการก่อสร้าง ส่วนมาก ผึ้งงานคอนสครัค จะอาศัย การพูดจาปรึกษาหารือ กับลูกค้า ด้วยเหตุและผล เป็นหลัก ถ้อยทีถ้อยอาศัยเพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน และประคับประคองให้งานจบลงด้วยดี ให้เป็นที่พอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่จะไม่มีการทิ้งงานโดยเด็ดขาด 

 ไม่ถูก 2.  คือ ลูกค้าจะไม่ถูกฉวยโอกาส เอาเปรียบในขั้นตอนหรือวิธีการก่อสร้าง โดยอาศัยความไม่รู้ของลูกค้าในเรื่องงานก่อสร้าง  เพราะเนื่องจากลูกค้าโดยส่วนมาก ไม่ได้มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับการก่อสร้าง วิธีก่อสร้าง หรือมีวิชาฃีพเกี่ยวข้องกับช่าง จึงเป็นเหตุให้ผู้รับเหมา หรือช่าง บางคน อาศัยควาไม่รู้นี้เอาเปรียบลูกค้า

 ซึ่งเราได้พบปัญหานี้ค่อนข้างบ่อย ว่าผู้รับเหมาเดิมทำงานไม่ได้มาตราฐาน เสี่ยงอันตรายต่อโครงสร้างมาก  ในกรณีนี้ขอยกตัวอย่างเช่น การทำบ้านสองชั้นโดยใช้เสาเข็มหกเหลี่ยมกลวงยาว 6 ม. ตอกเป็นกลุ่มในเขตพื้นที่  กทม โดยไม่มีวิศวกรคำนวณน้ำหนักโครงสร้าง อาศัยการคาดคะเนของช่างที่รับทำ  โดย ช่างได้บอกลูกค้าว่า เสาเข็มนี้รับน้ำหนักของตัวอาคารได้ไม่มีปัญหา ลูกค้าก็จำเป็นต้องเชื่อ เพราะไม่มีความรู้ในงานก่อสร้าง เป็นเหตุให้บ้านทรุดร้าวมีอาการเอียงจนเป็นเหตุให้ลูกค้าอยู่ในสถานะอันตราย ที่ต้องเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และยังต้องเสียเงินเพิ่มอีกมากมายในการเสริมเสาเข็มใหม่ ( ในกรณีนี้ใช้เสาเข็ม micro pile เข้าไปแทนที่ ออกแบบและรับรองโดยวิศวกร )  เหตุการณ์นี้จีงเป็นตัวอย่างที่ดี

       ผึ้งงานคอนสตรัคชั่น  มีวิศวกร โฟรแมน หัวหน้าช่างให้คำปรึกษาขั้นตอนการทำงานอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา การก่อสร้างตามหลักวิชาการ อาศัยการคำนวณมีหลักวิชาการรองรับ    ไม่ใช่อาศัยการคาดเดาของช่าง หรือความเคยชินของช่างที่ทำต่อๆกันมา

 

ไม่ถูกที่  3.   คือ ลูกค้า จะไม่ถูก  เอาเปรียบเรื่องวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตราฐาน วัสดุด้อยคุณภาพ ซึ่งลูกค้าจะไม่มีวันรู้เลย ถ้าไม่ได้เข้ามาสัมผัสในวงการก่อสร้าง

       อาทิเช่น เหล็กเส้นที่ใช้ในการก่อสร้าง มีทั้งที่ภาษาช่างเรียกว่า  เหล็ก เบา เหล็กเต็ม ส่วนมากผู้รับเหมาที่ต้องการประหยัด ก็จะใช้เหล็กเบา เหล็กเบาก็คือ เหล็กที่ผลิตให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและน้ำหนักเบากว่ามาตรฐาน มอก. ผลก็คือความปลอดภัยลดลงตามขนาดน้ำหนักที่หายไป ทำให้โครงสร้าง อาคารไม่แข็งแรง  และยังมีอื่นๆอีกมากมายที่ลูกค้าไม่ใช้ผู้รับเหมาหรือช่างจะไม่รู้เรื่องเลย

ไม่ถูกที่  4.   คือลูกค้า  จะไม่ถูก  ทอดทิ้งเมื่อส่งมอบงานเสร็จ มักมีปัญหาเกิดขี้นเสมอๆ ว่า เรียก ผู้รับเหมา หรือ ช่าง ให้เข้ามาทำการแก้ไขให้เมื่อเกิดปัญหา ภายหลังส่งมอบงานเสร็จ แต่ช่างหรือผู้รับเหมาไม่มา  พูดง่ายๆก็คือจบงานแล้วรับเงินแล้ว ไม่มาซ่อมให้เมื่อพบปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่ ผึ้งงานคอนสตรัคชั่น มีการรับประกันผลงาน  1 ปีเต็ม ถ้าความผิดพลาดอันเกิดจากขั้นตอนการก่อสร้างของเรา เรายินดี ซ่อมแซมแก้ไขให้ โดยไม่มีข้อแม้ และลูกค้าไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น 

 

    ในปัจจุบัน ผึ้งงานคอนสตรัคชั่น เน้นแข่งขันในเรื่องคุณภาพงานและความรับผิดชอบหลังการขาย มากกว่า แข่งขันรับงานด้วยราคาที่ต่ำสุด เราต้องการสร้างผลงานให้ออกมาดีมีคุณภาพในระดับราคาที่เหมาะสม บริษัทสามารถมีกำไรได้ ลูกค้าได้รับการบริการที่มีคุณภาพเป็นที่พึงพอใจ  ดังนั้นส่วนมากเราจะเลือกลูกค้าที่มีแนวความคิดตรงกับเราคือ  ต้องการงานที่มีคุณภาพ ต้องการวัสดุได้มาตราฐาน ต้องการก่อสร้างที่ถูกตามหลักวิชาการช่าง มีวิศวกร โฟรแมน ดูแลควบคุมการก่อสร้าง  ทำงานจบตามกำหนดเวลา มีบริการหลังการขาย มีการรับประกันผลงาน 1 ปี  

www.facebook.com/peungnganconstruction

ทาสีเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ก็ยากนะ ถ้าไม่รู้

 

ในช่วง เข้าหน้าร้อน เป็นช่วงที่ใครคิดจะ ทาสีบ้านใหม่ หรือ
บ้านเก่าที่จะซ่อมแซมงานสีต่างๆ ก็เหมาะที่จะเริ่มทำได้แล้ว
ทีนี่จะเริ่มทำอย่างไรดีล่ะ การทาสีมีขึ้นตอนอะไรบ้าง
ไม่ใช่ว่าให้แปรงจุ่มสีทาปรี๊ดๆบ้านจะออก มาสวยงามดังใจคิดได้เลย การทาสีให้สวยงามไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
มีขึ้นตอนการทำเป็นขั้นตอน งานจึงออกมาดี สีติดทนนาน
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวที่

จะทาสี ถ้าเป็นบ้าน อาคาร ทาวเฮาส์ สำนักงาน ก็ต้องมาดูว่า สีเก่า เป็นอย่างไร หมดอายุหรือยัง เอามือลูบดู ถ้าติดออกมาเป็นแป้งๆ ก็แสดงว่าสีหมดสภาพแล้ว

การเตรียมพื้นที่ผิวจะทาสี เริ่มจาก การทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดก่อน โดยขจัดฝุ่น คราบสกปรก คราบไขมัน กรณีเป็นสนิมก็ต้องขัดออก คราบ รา ตะไคร่น้ำ ขัดออกให้หมด อาจใช้แปรงพลาสติกขัด เอาเกรียงขูดแซะสีที่เสื่อมสภาพออก หรือมีที่ฉีดน้ำความดันสูงก็ฉีดทำความสะอาด แล้วรอให้พื้นผิวนั้นแห้งสนิทอย่างน้อย 24 ชม.

ถ้าพื้นผิวปูนมีรอยแตกร้าว ขนาดเล็ก ใช้ วัสดุ Acrylic Filler
อุดโป๊วหรือถ้ามีขนาดใหญ่ 2-10 มม. ใช้ Acrylic Sealant ทิ้งให้แห้ง คัดแต่งด้วยกระดาษทรายถ้าพื้นผิวมี รา ตะไคร้น้ำ ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร้น้ำขี้นตอนทาสีทาสีรองพื้น 1 เที่ยว

ถ้าเป็นพื้นผิวที่เคยทาสีแล้วหรือบ้านเก่า ให้ใช้น้ำยารองพื้นสำหรับปูนเก่าเพื่อเพิ่มการยึดเกาะของสีถ้าเป็นบ้านใหม่ ให้ใช้น้ำยาทาสีรองพื้นปูนใหม่ เพื่อปรับสภาพผิวคอนเกรีตใหม่ เพิ่มการยึดเกาะของฟิลม์สี

จากนั้นจึงทาสีน้ำอะคริลิค ทับ 2 -3 แต่ละเที่ยวให้ระยะเวลาห่างกันพอสมควร จนสีขึ้นเงางามทั้งหมดเป็นขั้นตอนคร่าวๆสำหรับ ไว้ใช้ ดูช่างเราเวลาเราจ้างช่างทาสี เราจะได้รู้ขึ้นตอนต่างๆ หรือ อยากลงมือทำเอง บางส่วนที่สามารถทำด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้ครับ

ปัญหายอดฮิตของการต่อเติมบ้าน

ปัญหายอดฮิตของการต่อเติมบ้าน

ต่อเติมบ้านแล้วทำไมถึงทรุด

ปัจจุบัน นิยมต่อเติมห้องครัว ต่อเติมห้อง โรงจอดรถ เนื่องจากความต้องการขยายพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น

แต่บางคนอาจเจอปัญหาทรุดตัว เริ่มมีรอยแตกรอยร้าวของผนัง มีการทรุดตัวของพื้น ทั้งๆที่ช่างก็ตอกเสาเข็มนะ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

 

ปัญหาที่เกิดและพบบ่อยก็คือ โครงสร้างเก่าและโครงสร้างใหม่ มีอัตตราการทรุดตัวไม่เท่ากัน อาจจะเป็นเพราะ ใช้เสาเข็มของส่วนต่อเติมใหม่มีขนาดเล็กว่าโครงสร้างเดิม และเชื่อมยึดติดกัน ทำให้เกิดการดึงรั้งของโครงสร้าง

โครงสร้าง หมายถึง เสาเข็ม ฐานราก คาน พื้น เสา โครงหลังคา

การแก้ไขก็คือ โครงสร้างระหว่างส่วนที่ต่อเติม ใหม่กับโครงสร้างเดิม ควรแยกออกจากกันโดยอิสระ อิสระในที่นี้คือ แยกตั้งแต่เสาเข็ม จนถึงโครงหลังคาเลยนะครับ ตรงบริเวณรอยต่อระหว่างส่วนต่อใหม่กับโครงสร้างเดิม จะมีช่องว่าง ถ้าต้องเชื่อม ต้องมีการเชื่อมในลักษณะที่ยืดหยุ่นได้ เพื่อลดปัญหาการแตกร้าวของอาคาร

ในทางปฎิบัติยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย จะค่อยๆเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปครับ

ปรัชญาการทำงานที่ได้จากผึ้ง

เมื่อ ปี 2548 ได้อ่านบทความของ อาจารย์ สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์ อาจารย์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เรื่อง ปรัชญาการทำงานที่ได้จากผึ้ง ซึ่งต่อมาแนวคิดนี้ได้จุดประกายเริ่มต้นการทำงานของ ผึ้งงาน คอนสตรัคชั่น ในปีถัดมาคือ 2549 ^^

"ปรัชญาการทำงานที่ได้จากผึ้ง" คือ "การแบ่งหน้าที่กันทำงานสำหรับการทำงานให้เป็นทีม"

 
ขออนุญาติคัดลอกบทความของอาจารย์ สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์ มาให้อ่านสรุปใจความสั้นๆนะครับ

ผึ้งมี 3 ประเภท

ผึ้งนางพญา มีหน้าที่ บินไปผสมพันธุ์กับผึ้งตัวผู้, ควบคุมสังคมภายในรัง และการวางไข่

ผึ้งตัวผู้ มีหน้าที่ กินอาหาร และคอยบินไปรอผึ้งนางพญาเพื่อผสมพันธุ์

ผึ้งงาน มีหน้าที่ ทำงานทุกอย่างภายในรัง

ว่ากันเฉพาะเรื่องผึ้งงาน ผึ้งงานเขามีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งเรียกว่า "division of labour" ผึ้งจะถูกกำหนดให้ทำงานตามตารางเป็นโปรแกรมมาตั้งแต่เกิดเลย

ทุกตัวที่เป็นผึ้งงานต้องทำงาน เขาจะไม่เกี่ยงกัน ช่วยเหลือการทำงานกันเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างผึ้งตัวหนึ่งมีน้ำหวานหกรดใส่ ผึ้งอีกตัวก็จะมาช่วยดูดน้ำหวานออกทำความสะอาด

ผึ้งงานทุกตัวต้องทำงาน ผึ้งจะให้ความร่วมมือช่วยเหลือกัน แบ่งงานกันทำ มีผู้นำ (นางพญา) ผู้ตาม/ลูกน้อง (ผึ้งงาน) และไม่เคยเห็นผึ้งทะเลาะเบาะแว้งกันให้เห็น

ผึ้งทุกตัวทำงานโดยไม่มีค่าแรง สิ่งที่ได้รับคือ กลิ่นตัวจากผึ้งนางพญา การได้อยู่และถูกยอมรับในสังคมผึ้ง และผึ้งคงมีความสุขอยู่กับการทำงานและการได้ช่วยเหลือผึ้งตัวอื่น